เปิดความลับของ “กล้วยสุก” วิจัยชี้มีแอลกอฮอล์ตามธรรมชาติ
กล้วยผลไม้ที่เป็นที่นิยม ทั้งกินเปล่าๆ และนำไปประกอบอาหาร เครื่องดื่ม ขนมหวาน ที่ล้วนแล้วแต่ละมุนลิ้น อีกทั้งยังมีคุณประโยชน์หลากหลายแต่รู้หรือไม่เมื่อเก็บกล้วยอุณหภูมิที่เหมาะสมเป็นเวลา 8 วัน จะมีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ด้วย
กล้วย 1 ผล ให้พลังงานได้ราวๆ 100 แคลอรี่ และยังมีน้ำตาลจากธรรมชาติอยู่ถึง 3 ชนิดทั้งซูโครส ฟรุกโตส และกลูโคส ซึ่งจะช่วยเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกาย แถมยังอุดมไปด้วยวิตามิน และแร่ธาตุนานาชนิด เช่น ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม และโพแทสเซียม รวมไปถึงคาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามินเอ วิตามินบี 6 วิตามินบี 12 และวิตามินซี ที่ช่วยกระตุ้นระบบภูมิต้านทาน นอกจากนี้ยังมีเส้นใย และกากอาหาร
อย่าหลงเชื่อ แพทย์ชี้ "กล้วยสุก" รักษาโรคไมเกรนไม่ได้
“กล้วย”สารพัดประโยชน์ กินถูกวิธีได้ทั้งบำรุงผิว-ดูแลสุขภาพ
กล้วยจึงไม่ใช่เพียงแค่ผลไม้ที่เพิ่มพลังงานเท่านั้น แต่ยังมีคุณสมบัติช่วยเอาชนะ และป้องกันโรคต่างๆ ที่จะเกิดกับร่างกายได้อีกหลายโรค จากงานวิจัยพบว่ากินกล้วยแค่ 2 ผล ก็สามารถเพิ่มพลังงานให้อย่างเพียงพอ กับการออกกำลังกายอย่างเต็มที่ได้นานถึง 90 นาที- ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดสมอง ช่วยป้องกันการเป็นโรคที่เกี่ยวกับสมองได้เป็นอย่างดี
- ลดความเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง เพราะในกล้วยมีธาตุโพแทสเซียมสูงสุด แต่มีปริมาณเกลือต่ำ จึงช่วยในการรักษาระดับความดันโลหิต ช่วยลดอันตรายจากการเกิดโรคต่างๆ ที่เกิดจากความดันโลหิต เช่น โรคเส้นเลือดฝอยแตก
- ช่วยกระตุ้นความตื่นตัวให้กับสมอง จากปริมาณโพแทสเซียมที่มีอยู่สูงในกล้วยสามารถช่วยให้มีความตื่นตัวในการทำงานได้มากขึ้น
- ลดอาการของโรคโลหิตจาง ช่วยป้องกันภาวะโลหิตจางได้ และยังช่วยในกรณีที่ไม่มีแรง ให้กลับมามีกำลังได้อีกด้วย
- ช่วยแก้ปัญหาโรคท้องผูก ได้เป็นอย่างดีด้วยปริมาณเส้นใย และกากอาหารที่มีอยู่ในกล้วยจะช่วยให้ระบบการขับถ่ายของร่างกายเป็นปกติ มีไฟโตเคมิคัลที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่ ป้องกันมะเร็ง
- มีเอ็นไซม์ที่ช่วยในการย่อยอาหาร ทำให้กระเพาะอาหาร และลำไส้ทำงานหนักน้อยลง
- ช่วยลดอาการซึมเศร้า เพราะการกินกล้วยจะส่งผลดีต่อสมองและระบบประสาท เนื่องจากในกล้วยมีสาร Tryptophan ซึ่งเป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่ร่างกายสามารถเปลี่ยนให้เป็นสารเซโรโทนิน ที่จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ปรับอารมณ์ให้ดีขึ้น หายจากความกังวล ช่วยให้นอนหลับสบายยิ่งขึ้น ถือเป็นตัวช่วยอย่างดีสำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านการนอน หรือนอนไม่หลับเรื้อรัง
- ช่วยลดความอ้วน และดูแลรูปร่าง เพราะช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ จึงช่วยลดอาการชอบกินจุบกินจิบลงได้พอสมควร
“มะนาว”ที่ไม่ได้มีดีแค่แก้เจ็บคอ ยังช่วยบรรเทาต่อมทอนซิลอักเสบ
ความลับของกล้วยยังไม่หมด รู้หรือไม่ในกล้วยสุกจัดมีแอลกอฮอล์ตามธรรมชาติอาศัยอยู่
บทความที่ตีพิมพ์โดยสภาวิจัยแห่งชาติ ระบุว่าเป็นจริงที่สามารถพบแอลกอฮอล์ได้ในกล้วยที่สุกเกินไป หรือกล้วยที่สุกเต็มที่ในอุณหภูมิ 60 องศาฟาเรนไฮต์ เวลา 8 วันนับจากวันที่ดึงผลกล้วยออกจากต้น เมื่อเปลือกกล้วยเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลนั่นแปลว่าสามารถนำกล้วยไปทำขนมหวานได้ แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งกล้วยจะเริ่มเก็บแอลกอฮอล์ไว้
กระบวนการหมักในกล้วยเกิดขึ้นเมื่อเก็บกล้วยไว้ในอุณหภูมิที่อบอุ่น โดยยีสต์ในอากาศจะเปลี่ยนน้ำตาลของผลไม้เป็นแอลกอฮอล์และคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งใช้ในการทำไวน์หรือเบียร์บางประเทศในแอฟริกา ซึ่งกระบวนการหมักตามธรรมชาตินี้เรียกว่าการหมักเอทานอล โดยใช้น้ำตาลฟรุกโตส ซูโครส และน้ำตาลกลูโคส ที่มีอยู่ในกล้วย ซึ่งช่วยเพิ่มการหมักที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ยิ่งทำให้สุก และเมื่อเทียบกับเบียร์ปลอดแอลกอฮอล์ที่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกาก็ถือว่ามีค่าเปอร์เซนต์แอลกอฮอล์ที่น้อยมาก(0.2%)
อย่างไรก็ตาม ขอแนะนำว่าสตรีมีครรภ์และคนอื่นๆ ที่ไวต่อผลกระทบของการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แม้เพียงเล็กน้อยโดยไม่คำนึงถึงแหล่งที่มา
ข้อมูลจาก :โรงพยาบาลเปาโล,tastingtable,irishmirror
ประโยชน์ของชาเอิร์ลเกรย์ หนึ่งในเครื่องดื่มทรงโปรด ควีน เอลิซาเบธที่ 2
“พริก” แซ่บได้แต่พอดีเป็นประโยชน์ ป้องกันโรคพาร์กินสัน-มะเร็งปอด