ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ "เลอ เซเลกซิออนเนอร์" เฮดโค้ชทีมชาติฝรั่งเศส ประกาศรายชื่อ 25 นักเตะชุดลุยศึก ยูโร 2024 ที่ประเทศเยอรมนี ระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน – 14 กรกฎาคม นี้ออกมาเป็นที่เรียบร้อย
นอกจากความอินดี้ ประกาศตัวแบบไม่ครบโควต้าสูงสุด 26 คน เผื่อเติมในภายหลัง แบบเมื่อตอนฟุตบอลโลก 2022 แล้ว ไฮไลต์ของการประกาศรายชื่อครั้งนี้ คงหนีไม่พ้นการกลับมาติดทีมชาติในรอบ 2 ปี ของ เอ็นโกโล่ กองเต้ กองกลางตัวรับวัย 33 ปี ที่ห่างหายไปจากหน้าสื่อฟุตบอลยุโรป หลังย้ายจาก เชลซี ไปเล่นกับ อัล-อิตติฮัด ที่ซาอุดีอาระเบีย
แน่นอนว่าทั้ง 25 นักเตะนั้นมีฝีเท้าฉกาจ ที่หลาย ๆ คน คือ "ระดับโลก" แต่ในขณะเดียวกันก็มีแข้งเลือดน้ำหอมฝีเท้าดีอีกมากมายที่ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ ไม่ได้หนีบติดทีมไปด้วย ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ทั้งอาการบาดเจ็บ, ฟอร์มไม่โดนใจ หรือมีทางเลือก เล่นทีมชาติอื่น ๆ ได้ จนสามารถจัดเป็นอีกทีมที่มีคุณภาพไม่ยิ่งหย่อนกัน
Main Stand จึงได้จัดทีมแข้งฝรั่งเศส ฟอร์มดีแต่ไม่ได้อยู่ใน 25 แข้ง ยูโร 2024 … ติตตามได้ที่นี่
[ลูก้าส์ เชอวาลิเยร์ - ผู้รักษาประตู, ลีลล์]
ผู้รักษาประตู วัย 22 ปี ของ ลีลล์ เก็บไปแล้ว 15 คลีนชีท จากการลงสนาม 33 เกม ใน ลีกเอิง ฝรั่งเศส ฤดูกาล 2023-24 ถูกจัดอันดับให้เป็นนายด่านเลือดน้ำหอมค่าตัวสูงเป็นที่ 2 รองจาก ไมค์ เมญอง (จาก FootballTransfers 27.3 ล้านยูโร)
น่าเสียดายที่อย่างน้อย ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ น่าจะเอาชื่อของเขาติดไปด้วยเพื่อเก็บประสบการณ์ เพราะล่าสุด ลูก้าส์ เชอวาลิเยร์ เพิ่งได้ทำหน้าที่กัปตันทัพ "ตราไก่" รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา และน่าจะเป็นตัวหลักของทีมชุดโอลิมปิก ปารีส 2024 ที่ฝรั่งเศสจะเป็นเจ้าภาพช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้
[มาโล กุสโต้ - แบ็กขวา, เชลซี]
ในช่วงที่ รีซ เจมส์ ได้รับบาดเจ็บ ไม่สามารถลงสนามช่วยทีมได้ เขาถือเป็นแข้งที่เข้ามาทดแทนการขาดหายไปและรับผิดชอบหน้าที่ทางฝั่งขวาได้เป็นอย่างดี โดยจุดเด่นของ มาโล กุสโต้ อยู่ที่การเติมเกมรุก ซึ่งอาจไม่ตรงสเปคของ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ เสียเท่าไร
[ฌอง-แคลร์ โตดิโบ - เซ็นเตอร์แบ็ก, นีซ]
ด้วยวัยเพียง 24 ปี แต่เขากลับรับหน้าที่บัญชาการเกมรับให้กับ นีซ ไปถึง 32 เกมรวมทุกรายการ แถมยังพาต้นสังกัดรั้งอันดับที่ 5 ของ ลีกเอิง ฝรั่งเศส ในฤดูกาล 2023-24 จนมีข่าวว่า เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์ พร้อมที่จะดึงเขาเข้ามาเป็น "ปีศาจแดง" ตัวใหม่ในฤดูกาลหน้า
[โมฮัมเหม็ด ซิมาก็อง - เซ็นเตอร์แบ็ก, แอร์เบ ไลป์ซิก]
โมฮัมเหม็ด ซิมาก็อง ถือเป็นกำลังหลักของ แอร์เบ ไลป์ซิก ในฤดูกาลนี้ ด้วยการที่สามารถเล่นได้ทั้งตำแหน่งปราการหลังตัวกลาง แบ็กขวา รวมถึง วิงแบ็กขวา โดยเขาลงเล่นให้ แอร์เบ ไลป์ซิก ไปมากถึง 42 เกมรวมทุกรายการ ทำได้ 3 ประตู กับอีก 4 แอสซิสต์
[ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ - แบ็กซ้าย, เปแอสเช]
อันที่จริง ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ อยู่ในโผทีมชาติฝรั่งเศสมาโดยตลอด แต่เขาดันโชคร้าย ได้รับบาดเจ็บเอ็นไขว้หน้าหัวเข่าซ้ายฉีกขาด ระหว่างเกมที่เล่นให้ ปารีส แซงต์ แชร์กแม็ง ต้นสังกัด พบ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จนต้องเข้ารับการผ่าตัด ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ จึงอดใช้งานเขาไปโดยปริยาย
[มัตเตโอ เกนดูซี่ - มิดฟิลด์, ลาซิโอ]
เกนดูซี่ ก็เป็นอีกคนที่อยู่ในชุดรองแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ แต่การพัฒนาของ วอร์เรน ซาอีร์-เอเมรี่ ดาวรุ่งของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง รวมถึงการกลับมาของ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ทำให้เขาเป็นผู้ถูกเลือกให้ผิดหวัง แม้ในฤดูกาลนี้จะรับบทบาทเป็นตัวหลักให้กับ ลาซิโอ ก็ตาม
[จอร์แดน แวร์ตูต์ - มิดฟิลด์, มาร์กเซย]
แม้จะลงสนามให้ โอลิมปิก มาร์กเซย ในฤดูกาล 2023-24 มากถึง 45 เกมรวมทุกรายการ มีผลงาน 5 ประตู 5 แอสซิสต์ แถมเล่นได้หมดในแผงมิดฟิลด์ แต่เขาก็เผชิญชะตากรรมเดียวกันกับ มัตเตโอ เกนดูซี่ ที่ได้รับผลกระทบจากการที่ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ เรียก วอร์เรน ซาอีร์-เอเมรี่ และ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ เข้ามาติดทัพ แต่หากมีใครบาดเจ็บ เขาจะเป็นตัวเลือกแรก ๆ ที่ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ เรียกใช้งาน
[คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู - กองกลางตัวรุก, เชลซี]
คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู ถูกหลายฝ่ายมองว่าเป็นผู้เล่นที่มีความสามารถและเซนส์บอลสูง ยิ่งถ้าหากได้ประสานงานกับ คีลิยัน เอ็มบัปเป้, อุสมาน เดมเบเล่ และ อองตวน กรีซมันน์ จะทำให้ทัพ "ตราไก่" มีเกมรุกที่หลากหลายมากขึ้น
ทว่าในฤดูกาล 2023-24 นับตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับ เชลซี เขาก็มีอาการบาดเจ็บติดตัวแทบตลอดเวลา และได้ลงเล่นในพรีเมียร์ ลีก เพียง 10 เกมเท่านั้น (สถิติ ณ วันที่ 18 พฤษภาคม 2024) กระนั้นเมื่อใดที่เขาลงสนาม ก็มักสร้างความแตกต่างให้กับทีมได้อยู่เสมอ มีผลงาน 3 ประตู
[มุสซ่า ดิยาบี้ - ปีกซ้าย, แอสตัน วิลล่า]
เจ้าของค่าตัว 45 ล้านปอนด์ จาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น สู่ แอสตัน วิลล่า เมื่อปี 2023 เคยติดทีมชาติฝรั่งเศสชุดใหญ่มาแล้ว 10 เกม จากผลงาน ยิง 49 ประตู กับ 48 แอสซิสต์ ตลอด 172 เกมที่เขาลงเล่นให้ "นายห้างขายยา" แต่พอย้ายมา "สิงห์ผงาด" ตัวเลขในเกมรุกแบบนี้ลดลงไปอย่างมาก แม้จะได้รับความไว้วางใจจาก อูไน เอเมรี่ ให้ลงเล่นแทบทุกเกม
[ไมเคิล โอลิเซ่ - ปีกขวา, คริสตัล พาเลซ]
จะเรียกว่าเป็น "เดอะ แบก" เกมรุกของ "ปราสาทเรือนแก้ว" คงไม่เกินจริงนัก เพราะถึงแม้จะมีอาการบาดเจ็บรบกวนเป็นช่วง ๆ แต่เมื่อไหร่ที่ คริสตัล พาเลซ มีเขาอยู่ในสนาม เกมรับฝั่งตรงข้ามมักปั่นป่วนอยู่เสมอ ไม่เช่นนั้นทั้ง เชลซี รวมถึง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คงไม่มีกระแสข่าวว่าอยากได้เขามาร่วมทีม
อย่างไรก็ตาม ไมเคิล โอลิเซ่ เล่นได้ 4 ทีมชาติ อังกฤษ, ฝรั่งเศส, ไนจีเรีย, แอลจีเรีย แม้เคยติดทีมชาติฝรั่งเศสชุดเยาวชน และเจ้าตัวดูต้องการเล่นให้ทีมตราไก่เช่นกัน เพราะเคยปฏิเสธการติดทีมชาติอังกฤษและไนจีเรียเมื่ออดีต แต่หาก ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ หมางเมินไปเรื่อย ๆ แฟนบอลฝรั่งเศส ก็อาจต้องเสียดาย ถ้าสุดท้ายเขาเลือกเล่นให้ชาติอื่น
[วิสซาม เบน เยดแดร์ - กองหน้า, โมนาโก]
ศูนย์หน้ากัปตันทีมของโมนาโก ก็เป็นอีกคนที่โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ ยิงไป 15 ประตู จาก 31 เกม ในลีกเอิง ฝรั่งเศส แต่หากเทียบกับแนวรุกที่ ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ เลือกติดทีมคงไม่แปลกใจที่เขาหลุดโผ ยูโร 2024
นอกจากนี้ยังมีแข้งฝีเท้าดีคนอื่น ๆ อาทิ อักเซล ดิซาซี่ (เชลซี), ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า (คริสตัล พาเลซ), เบอนัวต์ บาเดียชิล (เชลซี), เคเฟรน ตูราม (นีซ), บูบาการ์ กามาร่า (แอสตัน วิลล่า) ฯลฯ ที่อดไปลุยยูโร 2024 ที่ เยอรมนี
