วรรณกรรมแปล “ผู้พิทักษ์ทุ่งข้าวไรย์” ตอน11 - Police News Varieties
Sunday, May 12, 2024
More
    Homeบทความทั่วไปวรรณกรรมแปล “ผู้พิทักษ์ทุ่งข้าวไรย์” ตอน11

    วรรณกรรมแปล “ผู้พิทักษ์ทุ่งข้าวไรย์” ตอน11

    ตอน 11

    ในทันที่ที่ผมเดินกลับมาที่ล็อบบี้โรงแรม

    ผมกลับหวนคิดถึงเจนกัลลาเกอร์ อีกแล้ว พอคิดย้อนถวิล ผมก็ไม่อาจสลัดภาพเธอออกจากห้วงความคิดได้ ผมทรุดนั่งลงบนเก้าอี้อันแสนสบายในล็อบบี้แล้วย้ำคิดถึงแต่ภาพเจนกับเจ้าสแตรดเลเตอร์ที่นั่งในรถของเอ็ดแบงกี้

    ผมเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเจ้าสแตรดเลเตอร์คงไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านเลยไปเฉยๆแน่ ผมรู้จักเจนดีราวกับหน้าหนังสือที่เปิดอ่าน

    จริงๆนะ ผมรู้จักเธอจากการเล่นหมากรุกด้วยกัน เธอชอบพวกนักกีฬา หลังจากที่รู้จักเธอ ตลอดช่วงฤดูร้อน เราไปตีเทนนิสด้วยกันเสมอแทบทุกเช้า ตอนเย็นก็ไปตีกอล์ฟทุกเย็น

    ผมอยากรู้จักเธอให้ลึกซื้งยิ่งขึ้น ผมไม่ได้หมายถึงเกี่ยวกับเรือนร่างสัดส่วนหรืออะไรหรอก เราเห็นกันและกันตลอดเวลาคุณไม่จำเป็นจะต้องทำตัวเซ็กซี่ตลอด เพียงเพื่อหยอดเสน่ห์ให้สาว ๆ

    ผมเจอเจนยังไงน่ะหรือ

    ก็เจ้าโดเบอร์แมน พินเชอร์ เธอจูงมันเดินเล่นแล้วปล่อยอึในสนามหญ้าน่ะสิ แม่ผมไม่ค่อยชอบเธอนัก ก็เลยโทรไปบอกกับแม่ของเจน ทำให้มันกลายเป็นเรื่องยุ่ง แม่ผมมักทำเรื่องยุ่งได้เสมอสำหรับเรื่องเหล่านี้

    แล้วมันเกิดอะไรขึ้นน่ะหรือ

    สองสามวันต่อมา ผมเจอเจนนอนคว่ำอยู่ข้างสระว่ายน้ำของสโมสร ผมทักทายเธอ ผมรู้ว่าเธออยู่บ้านใกล้กัน เพียงแต่ไม่เคยเดินสวนทางกันมาก่อนเลย เธอออกปั้นปึ่งเล็กน้อยกับผมในขณะนั้น ผมมีเวลามากเหลือเฟือพอที่จะพูดว่าผมไม่ได้สนใจเรื่องหมาของเธอปล่อยอึไปทั่วตรงไหนบ้าง มีแต่ถ้ามันไปอึในห้องนั่งเล่นเท่านั้นแหละที่ผมจะสนใจ

    หลังจากนั้น เจนกับผมก็มีมิตรไมตรีต่อกัน

    บ่ายวันนั้นผมกับเธอไปเล่นกอล์ฟด้วยกัน เธอหวดลูกกอล์ฟหายไปถึงแปดลูก ผมจำได้แปดลูก ผมต้องลำบากยุ่งยากที่จะสอนเธอให้ลืมตาจ้องตามลูกกอล์ฟไปบ้างตอนหวดแต่ละครั้ง ต้องปรับปรุงวิธีเล่นให้เธออย่างมาก

    ผมนี่เป็นนักกอล์ฟที่ใช้ได้คนหนึ่งทีเดียวล่ะ ถ้าผมบอกคุณว่าออกรอบยังไง คุณอาจไม่เชื่อผมก็ได้ ผมเกือบได้เล่นหนังครั้งหนึ่ง แต่ก็เปลี่ยนใจในนาทีสุดท้าย ผมอาจจะกลายเป็นคนจอมโกหกเสแสร้งตัวยงเลยถ้าผมยอมเข้าฉากสักฉากหนึ่ง

    เจนเป็นเด็กสาวที่ร่าเริง ผมไม่ได้วาดภาพเธอเกินจริงนัก เธอน่าหลงใหลมาก เป็นคนที่ปากคอดูบิดเบี้ยวพิกล หมายถึงเวลาที่พูดคุยแล้วเกิดอาการตื่นเต้นมาก ๆ ริมฝีปากจะบิดเบี้ยวไปหลายทิศทาง ก็ริมฝีปากนั่นแหละ แทบจะบ้าตาย ก็เธอไม่ยอมหุบปากเอาเสียเลย มักจะเผยออ้าเล็กน้อยเสมอ โดยเฉพาะเวลาตั้งท่าหวดลูกกอล์ฟหรือตอนอ่านหนังสือ

    เธอชอบอ่านบทกวีโคลงกลอนหลายอย่าง นับว่าเป็นคนเดียวที่ไม่ใช่คนในครอบครัวที่ผมเคยเอาถุงมือเบสบอลของแอลลี่มาให้ดู ถุงมือนั่นมีบทกวี โคลงกลอนเขียนเต็มไปหมด เธอไม่เคยเจอแอลลี่มาก่อน เพราะว่าก่อนหน้านั้นช่วงซัมเมอร์ของเธอในรัฐเมนครั้งแรก เธอไปอยู่ที่แหลมค็อดแต่ผมก็เคยเล่าเรื่องของแอลลี่ให้เธอฟังบ่อย ๆ ซึ่งเธอสนใจมาก

    แม่ผมไม่ค่อยชอบเธอหรอก

    แม่มักคิดเสมอว่าเจนกับแม่ของเจนมีท่าทางปั้นปึ่งเชิดหยิ่งกับแม่ของผม ตอนที่ยังไม่รู้จักทักทายกัน แม่ผมเจอทั้งคู่ในละแวกหมู่บ้านบ่อย ๆ เพราะเจนจะขับรถไปตลอดกับแม่ของเธอ รถลาซาลล์เปิดประทุนที่ใช้ประจำ แม่ผมไม่คิดว่าเจนสวยน่ารักเลยแม้แต่น้อย เช่นเดียวกับผม เพียงแต่ผมชอบเธออย่างที่เธอเป็นเท่านั้นเอง

    ผมจำได้ว่าในบ่ายวันหนึ่ง เป็นครั้งเดียวที่เจนกับผมอยู่ใกล้ชิดกันมาก เป็นวันเสาร์ที่ฝนกระหน่ำลงมาอย่างหนักน่าดู ผมอยู่ที่บ้านของเธอ ตรงระเบียงหน้าบ้าน บ้านของเธอมีกันสาดใหญ่กว้าง เราเล่นหมากรุกด้วยกัน

    ผมเคยล้อเธอครั้งหนึ่งเพราะเธอไม่ยอมขยับเดินตัวขุนออกจากแถวท้ายกระดานหมากรุกเสียที แต่ก็ไม่ได้ล้ออะไรเธอมากมาย คุณคงไม่อยากหยอกล้อกับเธอเท่าใดนักหรอก ผมคิดว่าผมชอบเธอที่สุด ตอนที่คุณสามารถทำให้ผู้หญิงเนื้อเต้นระริก เมื่อมีโอกาสเปิดให้

    แต่มันน่าตลก ผู้หญิงที่ผมชอบมากที่สุด ผมกลับไม่รู้สึกอยากจะล้อเลียนเธอเลย บางครั้งยังคิดว่าเธอชอบให้ผมล้อเล่น ผมรู้นะว่าเธอชอบต้องชอบ แต่มันยากที่จะเริ่มต้นสักครั้งหนึ่งแม้ว่าคุณรู้จักคบหากันมานานมาก และไม่เคยหยอกล้อกับเธอเลยสักหน

    ยังไงก็ตามผมบอกคุณแล้วไงว่าเจนกับผมสนิทสนมกันแนบแน่นมาก

    ในบ่ายวันหนึ่ง ฝนตกหนักเป็นบ้าเป็นหลัง เราอยู่ตรงนอกระเบียงบ้าน ในทันใดนั้น ไอ้ขี้เมาที่แม่เจนแต่งงานด้วยออกมาที่ระเบียง แล้วถามเจนว่ามีบุหรี่ในบ้านเหลืออยู่บ้างหรือเปล่า ผมไม่รู้จักเจ้าหมอนี่สักเท่าใด มันดูเหมือนแบบฉบับผู้ชายที่เย่อหยิ่งไม่คุยกับใคร ถ้าไม่ต้องการอะไรสักอย่างจากคุณ มันมีบุคลิกแย่มาก

    เจนไม่ตอบมันตอนที่ถามหาบุหรี่ในบ้าน เจ้านี่เลยถามย้ำอีกหน เธอยังคงนิ่งเฉยเย็นชา แม้แต่จะเงยหน้าจากกระดานหมากรุก  ที่สุดเจ้านั่นก็หันกลับเข้าบ้าน เมื่อมันไปแล้ว ผมถามเจนว่าเกิดอะไรขึ้น เธอไม่ยอมตอบผม เธอทำราวกับสมาธิจดจ่ออยู่ที่ตารางหมากรุกจะเดินตาต่อไปอย่างไร

    แต่แล้วหยดน้ำตาก็ร่วงหล่นลงกระดานหมากรุกช่องสีแดง

    ไอ้หนูเอ๋ยผมแทบทนไม่ไหวที่เห็นแบบนี้ เธอพยายามปาดนิ้วลบคราบน้ำตาบนกระดานหมากรุก ผมไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่มันรบกวนใจผมอย่างสุดประมาณ ผมเลยชวนเธอไปชิงช้าแกว่งโยนตอนนี้แหละทำให้ผมใกล้ชิดกับเธอแทบจะเบียดนั่งบนตักเธอเลยทีเดียว จากนั้นเธอก็ร้องไห้ออกมา

    ผมรู้แต่เพียงว่าได้พรมจูบเธอไปทั่ว ไม่ว่าดวงตา จมูก หน้าผาก คิ้ว ใบหู ตลอดใบหน้ายกเว้นที่ริมฝีปาก เธอเบือนหนีไม่ยอมให้ผมจูบ มันเป็นห้วงเวลาที่ได้แนบชิดใกล้กับเธอมากที่สุดระหว่างเราทั้งสอง

    ชั่วขณะหนึ่ง เธอลุกขึ้นเข้าไปในห้องและสวมสเวตเตอร์สีแดงสลับขาว ดูสวยดี เราพากันไปดูหนังกันต่อ ผมถามเธอระหว่างเดินทางถึงเรื่องนายคิวดาฮี ชื่อไอ้ขึ้เมาพิลึก มันเคยข่มเหงอไรเธอหรือไม่ เธอยังเป็นเด็กสาวที่น่ารัก แต่กลับต้องมาตกอยู่ในสภาพที่น่าเวทนาสงสารผมจะไม่ยอมปล่อยให้เรื่องเลยเถิดหรอก เจ้าคิวดาฮียอดเลว เธอบอกว่าไม่หรอก ผมเลยไม่รู้ว่ามันเรื่องอะไรกัน

    ผู้หญิงบางคนคุณไม่มีทางรู้หรอกว่าเธอเก็บเรื่องเจ็บแค้นอะไรไว้ในอก

    ผมไม่อยากให้คุณคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่จิตใจด้านชา เพราะว่าเราไม่ได้ใกล้ชิดกันมากนัก เธอไม่ใช่คนอย่างนั้นดอก ผมกุมมือเธอไว้ตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน คิดว่าฟังดูไม่เข้าท่าใช่ไหม แต่ก็รู้สึกตัวลอยที่ได้กุมมือของเธอ

    ผู้หญิงส่วนมากลองคุณได้กุมมือเธอแล้วล่ะก็ มือของเธอจะอ่อนปวกเปียกไปเลย หรือไม่ก็อยากจะชักมือกลับตลอดเวลา ราวกับว่าพวกเกรงว่าคุณจะรำคาญ

    แต่สำหรับเจนนั้นแตกต่างกันเลย แทบไม่ได้ขยับหรือเปลี่ยนอิริยาบถอะไรมากกว่าน้้น คุณแทบไม่ต้องกังวลอะไรเลย ไม่ว่ามือของคุณจะเปียกชื้นหรือเปล่า สิ่งที่คุณรับรู้ทั้งหมดคือคุณช่างมีความสุขเหลือคณามันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ

    อีกสิ่งหนึ่งที่ผมนึกถึงในโรงหนังตอนหนึ่งเจนทำอะไรบางอยางที่คุณแทบตัวลอย ขณะที่หนังม้วนใหม่เริ่มขึ้น ในทันใดรู้สึกว่ามีมือมาสัมผัสตรงท้ายทอย ใช่แล้วมือของเจน มันน่าขันดีที่เธอทำแบบนั้น เธอยังเป็นเด็ก

    ส่วนใหญ่ผู้หญิงที่ทำแบบนี้มักมีอายุราวยี่สิบห้าหรือสามสิบปี และปกติจะปฏิบัติต่อสามีหรือลูก ๆ มากกว่า ผมเองยังเคยทำกับน้องสาวโฟบี้อยู่บ่อย ๆ แต่กับสาวรุ่นมาทำแบบนี้ มันดูน่ารักแทบทำให้คุณตัวพองเลยทีเดียว

    อย่างไรก็ตามนั่นผมคิดไปเอง

    ขณะนั่งเก้าอี้แสนนุ่มสบายที่ล็อบบี้เจนเอ๋ย ทุกครั้งที่ผมย้อนคิดไปถึงตอนที่เธออยู่กับเจ้าสแตรดเลเตอร์ในรถของเอ็ด แบงกี้ ผมแทบจะบ้าคลั่ง ผมน่ะรู้ดีหรอกว่าเธอไม่ยอมให้มันจู่โจมเอาง่ายๆหรอก แต่ถึงอย่างไรก็ทำให้ผมรู้สึกจะบ้าคลั่งอยู่ดี จริงๆนะ ผมไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้เลย

    บริเวณล็อบบี้ไม่มีใครอยู่อีกเลย แม้แต่ผู้หญิงคุณตัวผมบลอนด์ก็ไม่มาเตร่อยู่อีกแล้ว

    ในทันใดผมรู้สึกอยากไปให้พ้นจากที่นี่เหลือเกิน มันช่างน่าหดหู่สิ้นดี

    ผมยังไม่รู้สึกอ่อนล้า เลยขึ้นไปที่ห้องพักจัดการสวมเสื้อโค้ต แล้วมองออกไปนอกหน้าต่างเพื่อดูว่าพวกวิปริตนั่นยังทำอะไรอยู่อีกหรือไม่แต่ทุกห้องก็ปิดไฟมืดหมด

    ผมลงลิฟต์อีก แล้วเรียกแท็กซี่บอกคนขับให้ไปส่งที่เออร์นี่ เออร์นี่เป็นไนท์คลับอยู่ในย่านกรีนวิช วิลเลจ ที่ ดี.บี.พี่ชายผมเคยพาไปเที่ยวครั้งหนึ่ง

    เออร์นี่เป็นชายผิวดำร่างใหญ่ เล่นเปียโน ท่าทางเย่อหยิ่งร้ายกาจ ไม่มีวันที่จะคุยกับคุณ ถ้าคุณไม่ใช่พวกคนเด่งคนดังหรืออะไรทำนองนั้น แต่เขาเล่นเปียโนฉกาจฉกรรจ์จริง ๆ แม้ฝีมือดีแค่ไหนแต่ก็ยังเป็นพวกจอมปลอมอยู่ดี

    ผมชอบฟังเขาบรรเลงเปียโนแต่บางทีก็อยากอุดหูไม่ให้เสียงเล็ดลอดเข้าหู

    ผมคิดว่านั่นเป็นเพราะตอนที่เขาพรมนิ้วบนคีย์เปียโน ในท่วงทำนองบ่งบอกถึงคนหยิ่งยโสโอหังกับคุณ ถ้าคุณไม่ใช่คนมีชื่อเสียงโดดเด่นอะไร

    RELATED ARTICLES
    - Advertisment -

    Most Popular

    Recent Comments