รวบคู่หูศรีนครินทร์ ร่วมกันจำหน่ายอาวุธปืนเถื่อนดัดแปลง - สำนักข่าวไทย อสมท

รวบคู่หูศรีนครินทร์ ร่วมกันจำหน่ายอาวุธปืนเถื่อนดัดแปลง

กรุงเทพฯ 18 พ.ค. – สืบนครบาลรวบคู่หูศรีนครินทร์ ร่วมกันจำหน่ายอาวุธปืนเถื่อนดัดแปลง ติดต่อผ่านโซเชียล


จากนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. ให้เร่งรัดปราบปรามอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน โดยปัจจุบันสถิติอาชญากรรมที่มีการใช้นำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนก่อเหตุอาชญากรรม มีเป็นจำนวนมาก

เมื่อวันที่ 17 พ.ค.67 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.สมพร คำเกตุ สว.กก.สส.2 บก.สส.บช.น. พร้อมชุดปฏิบัติการที่ 4 ดำเนินการจับกุม 1.นายไตรภพ อายุ 19 ปี 2.นายอนุสรณ์ อายุ 22 ปี พร้อมด้วยของกลาง 1.อาวุธปืน (ประดิษฐ์ดัดแปลงลำกล้อง) ขนาด 380 มม. จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืน ขนาด 380 มม. จำนวน 3 นัด ซองกระสุน(แม๊กกาซีน) จำนวน 1 ซอง ซองพกอาวุธปืนสีดำ 1 ซอง


พฤติการณ์แห่งคดี ก่อนทำการจับกุมเจ้าพนักงานตำรวจ กก.สส.2 บก.สส.บช.น. ออกติดตามสืบสวนหาข่าวเพื่อจับกุมผู้กระทำความผิดลักลอบจำหน่ายอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน โดยใช้สื่อโซเชียลมีเดียเป็นช่องทางในการติดต่อ ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา

จากการสืบสวนของเจ้าพนักงานตำรวจ กก.สส.2 บก.สส.บช.น. สืบสวนทราบว่านายไตรภพ ใช้บัญชีเฟซบุ๊กเสนอขายอาวุธปืน (ประดิษฐ์ดัดแปลงลำกล้อง) ขนาด 380 มม. ราคา 15,000 บาท โดยนัดหมายให้มารับอาวุธปืนและจ่ายเงินกันบริเวณในปั๊มน้ำมันถนนศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร

พ.ต.ต.สมพร จึงรายงานให้กับผู้บังคับบัญชาทราบเพื่ออนุมัติในการล่อซื้อจับกุมผู้กระทำความผิด และมอบหมายให้เจ้าพนักงานตำรวจ กก.สส.2 บก.สส.บช.น. วางแผนการล่อซื้อเพื่อทำการจับกุมผู้กระทำความผิด


ต่อมาจึงออกเดินทาง โดย พ.ต.ต.สมพร มอบหมายให้เจ้าพนักงานตำรวจนั่งรถยนต์ไปกับสายลับ เพื่อไปทำการล่อซื้ออาวุธปืนจากนายไตรภพ ต่อมาประมาณ 13.40 น. เมื่อเจ้าพนักงานตำรวจเดินทางไปถึงจุดนัดพบบริเวณปั๊มน้ำมัน เจ้าพนักงานตำรวจได้ให้สายลับโทรศัพท์แจ้งกับนายไตรภพ ว่าเดินทางมาถึง รออยู่ภายในปั๊มแล้ว

ต่อมาเวลาประมาณ 13.52 น. นายไตรภพ กับนายอนุสรณ์ (ทราบชื่อภายหลัง) ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่น PCX สีแดง-ดำ มาถึงบริเวณปั๊ม โดยนายอนุสรณ์เป็นผู้ขับขี่ และนายไตรภพเป็นผู้ซ้อนท้าย เดินลงมาจากรถจักรยานยนต์และนำอาวุธปืนส่งให้กับสายลับ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวจับกุมตัวนายไตรภพและนายอนุสรณ์ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันจำหน่ายอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต”

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนายไตรภพ และนายอนุสรณ์ มายังกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อสอบสวนขยายผลอาวุธปืนและดำเนินการทำบันทึกจับกุม ส่งพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

จากการสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับอาวุธปืน นายไตรภพ ให้การว่า เสนอขายอาวุธปืนดังกล่าวจริง โดยเสนอขายในราคา 15,000 บาท และนายอนุสรณ์ ให้การว่าถูกนายไตรภพชักชวนให้ช่วยขี่มอเตอร์ไซค์มาส่งที่ปั๊ม ซึ่งรู้ว่านายไตรภพกำลังจะเอาอาวุธปืนไปขาย จนถูกเจ้าหน้าที่แสดงตัวเข้าจับกุมดังกล่าว

พล.ต.ต.ธีรเดช ฝากเตือนผู้ซื้อ-ขายปืนออนไลน์ ผิดทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ ซื้ออาวุธปืนออนไลน์มีความผิดฐาน “ซื้อ มี ใช้ สั่ง หรือนำเข้า อาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต” มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาท ส่วนผู้ขายขายอาวุธปืนออนไลน์มีความผิดฐาน “ทำ ประกอบ มี หรือจำหน่ายอาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต” มีโทษจำคุกตั้งแต่ 2-20 ปี และปรับตั้งแต่ 4,000-40,000 บาท.-414-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบจุดที่ ฮ.ปธน.อิหร่านตกแล้ว

เตหะราน 20 พ.ค.- สื่อทางการอิหร่านรายงานอ้างแหล่งข่าวภาคสนามว่า ผลการตรวจตราทางอากาศในพื้นที่ที่เฮลิคอปเตอร์ของประธานาธิบดีเอบราฮิม เรซี ประสบเหตุตก สามารถกำหนดพิกัดการตกที่แม่นยำได้แล้ว เว็บไซต์สำนักข่าวไออาร์เอ็นเอ (IRNA) ของทางการอิหร่านรายงานว่า ทีมค้นหาและกู้ภัยกำลังเดินทางไปยังจุดที่อาจเกิดอุบัติเหตุ แต่ยังไม่มีการยืนยันเรื่องนี้จากทางการ ขณะเดียวกันโดรนของทูร์เคียหรือตุรกีได้ตรวจพบจุดความร้อนที่น่าจะเป็นจุดที่เฮลิคอปเตอร์ตก ผู้บัญชาการของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่านยืนยันว่า โดรนทูร์เคียพบจุดความร้อนที่น่าจะเป็นซากเฮลิคอปเตอร์ ไออาร์เอ็นเอรายงานว่า แม้ว่าสภาพอากาศเลวร้ายหมอกลงจัดและมีฝนตก ทีมกู้ภัยกำลังเร่งค้นหาเฮลิคอปเตอร์ที่ประธานาธิบดีไรซีโดยสารมาพร้อมกับคณะและหายไปเมื่อวันอาทิตย์ขณะบินอยู่เหนือภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ โดยได้ค้นหาอย่างละเอียดตามพื้นที่เทือกเขาและเนินเขาใกล้เมืองวาร์ซากานในจังหวัดอาร์เซอร์ไบจานตะวันออก.-814.-สำนักข่าวไทย

เร่งวิจัยยาฉีดพ่นรักษามะเร็งปอด คาดสำเร็จใน 3 ปี

การรักษามะเร็งมีความหวังมากขึ้น หลังนักวิจัยไทยจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ใช้เทคโนโลยีรักษามะเร็งสมองได้สำเร็จ และนำมาวิจัยต่อยอดรักษามะเร็งกระดูกอ่อนและมะเร็งตับแนวใหม่ได้ผล ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นการวิจัยยารักษามะเร็งปอดแบบฉีดพ่น

รวบแล้วหนุ่มปากี-เมียคนไทย ลวงชายอินเดียฆ่าทิ้งศพ

ตำรวจภูธรภาค 8 จับกุมชายปากีสถาน พร้อมภรรยาชาวไทย ลวงชายอินเดียมาฆ่าแล้วทิ้งศพริมถนน พุ่งเป้าปมขัดแย้งธุรกิจ โดยมีหลักฐานสำคัญจากวงจรปิดที่จับภาพเหตุการณ์ ขัดแย้งกับคำให้การของผู้ต้องหา

Made in Thailand แดนไทยเท่ : จากเมืองเก่าภูเก็ตสู่แพ็กเกจกล่องชิโนโปรตุกีส

ช่วง Made in Thailand แดนไทยเท่ วันนี้ จะพาไปดู มนต์เสน่ห์ของตึกรามบ้านช่องในย่านเมืองเก่าภูเก็ต ที่ถูกถ่ายทอด ไปสู่กล่องขนมรูปแบบชิโนโปรตุกีส กลายเป็นซอฟต์พาวเวอร์ภูเก็ตและไทยที่โดนใจนักท่องเที่ยวทั่วโลก

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ยังคงเดินหน้าปฏิบัติภารกิจที่กรุงโตเกียว หลังศาลรับคำร้อง

นายกฯ ยังคงเดินหน้าปฏิบัติภารกิจที่กรุงโตเกียว หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้อง แต่ไม่ต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่

พฐ.เตรียมเข้าตรวจสอบซากกุฏิวัดสวนแก้วที่ถูกไฟไหม้

เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เตรียมเข้าตรวจสอบซากกุฏิภายในวัดสวนแก้ว หลังไฟไหม้วอด คลอกเด็กเสียชีวิต 3 คน ด้าน “พระพยอม” บอกขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ก่อนแถลงให้ทราบถึงสาเหตุ

ศาล รธน.รับคำร้อง 40 สว. แต่ไม่สั่งนายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่

ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้อง 40 สว. ยื่นถอด “เศรษฐา” ปมตั้ง “พิชิต” เป็นรัฐมนตรี มีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 ไม่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส่วนกรณี “พิชิต” ไม่รับคำร้อง เพราะลาออกแล้ว